ประเพณี เป็นสิ่งที่ดีงาม .. ประเพณีเป็นสิ่งที่ควรรักษา .. ประเพณีเป็นสิ่งที่ควรสืบทอดต่อไป ...
หากจะกล่าวถึงคำว่า "ประเพณี" ในด้านทั่วไปแล้วมันก็ไม่ยากประเทศไทยมีประเพณีที่งดงามอย่าง สงกรานต์ เฉกเช่นเดียวกับวงการฟุตบอล มันก็ย่อมมีประเพณีของแต่ละสโมสร
เจาะลึกลงไปในหน้าแผนที่ของประเทศสเปน มองไปบนทิศเหนือ จะพบกับแคว้นที่มีชื่อว่า "คาตาลัน" มีทีมทีมหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์และเกียรติยศชื่อเสียงมากมายในวงการลูกหนัง โลก
ใช่แล้วเรากำลังพูดถึง FC Barcelona ทีมที่เพิ่งจะประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ในหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสรหรือ ของโลกเลยก็ว่าได้ ...
หากจะกล่าวว่า เบื้องหลังแห่งความสำเร็จส่วนหนึ่งใน Triple Champs ปีนี้ของทีมบาร์ซ่าคือคำว่า "ประเพณี" มันอาจจะทำให้เกิดการตะขิดตะขวงในใจสักเล็กน้อย แต่ในความจริงมันมีส่วนไม่น้อยเลย
บาร์เซโลน่า เป็นทีมที่มีอุตสาหกรรมการปั้นเด็กเยาวชน ที่เรียกได้ว่าติดอันดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้ ... คำว่าติดอันดับต้นๆนี้ไม่ได้เพียงหมายความว่าปั้นเด็กอย่างเดียวเพราะทีม ไหนๆก็ต่างมีนโยบายแบบนี้กันหมด
แต่ถ้าจะให้พูดถึงหลักของคุณภาพในการ เป็นเด็กก็คือ การที่เด็กในทีมเยาวชนหรือทีมสำรอง ก้าวขึ้นมากลายเป็นนักเตะที่มีคุณภาพคับแก้ว ช่วยพัฒนาทีมต้นสังกัดหรือ ในวงการลูกหนัง นั่นเอง
แสงแรก แห่งเส้นทางของความสำเร็จจากลูกหม้อของทีมเลือดหมูน้ำเงินนั้น เริ่มต้นที่ต้นยุค 90s
ดีอดีตกัปตันบาร์ซ่ามิดฟิลเบอร์ 4 โจเซป "เป๊ป" กวาดิโอล่า ในรายของกวาดิโอล่านั้นแค่ได้ขึ้นชื่อก็คงมโนภาพ การฉลองทริเปิ้ลแชมป์ในคราบผู้จัดการทีมมาดเท่ห์
นักเตะผู้ยิ่งใหญ่ที่เหมือนเป็นนักเตะ เยี่ยงอย่างหรือฮีโร่ของเด็กๆ หลายๆคนที่เป็นเด็กในอคาเดมี่หรือ เด็กในเมืองบาร์เซโลน่า การที่ได้เป็นนักเตะฝึกหัด การเป็นเด็กเก็บบอลข้างสนาม ไต่เต้าจนขึ้นทีมสำรอง
และ ได้ติดทีมชุดใหญ่เล่นในสนามโอ่งยักษ์ คัมป์ นู ต่อหน้าแฟนบอล 90,000 คน ... การมีชื่อเสียงล้นฟ้าในคราบนักเตะมากเท่าไร ก็ไม่เท่ากับการได้ลงเล่นให้กับทีมบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง
มันเป็น เกียรติ ที่เรียกได้ว่าหาคำบรรยายสรรพคุณไม่ถูกเลยทีเดียว .. การได้เล่นฟุตบอลในทีมบ้านเกิดของตัวเองพร้อมกับนักเตะระดับโลก .. แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จกันซะเรื่อยไป
มันเป็นหนึ่งในร้อย หรือ หนึ่งในล้านเลยก็ว่าได้ที่คุณจะได้รับโอกาสนั้น มีเยาวชนของบาร์ซ่าหลายคนที่ปีนไม่ถึงดวงดาวในฝัน แต่ก็พลัดตกเสียก่อน .. แต่ประเพณีของบาร์ซ่ามันแตกต่างออกไปจากทีมอื่นสักเล็กน้อย
หลายคนอาจจะอยากเห็นนักเตะระดับโลกในทีม รัก .. แต่สำหรับชาวบาร์ซ่าแล้วมัน "แตกต่าง" เราต้องการที่จะเห็นเด็ก
เยาวชนในทีมตัวเองลงเล่นในทีมชุดใหญ่ เราต้องการเห็นการก้าวหรือการพัฒนาของเยาวชนอย่างต่อเนื่อง ..
บาร์ซ่ามีนักเตะระดับโลก ใช่แล้ว ฉายาเจ้าบุญทุ่มไม่ได้มาจากการจับสลากสอยดาว แต่เหนือสิ่งอื่นใด บาร์ซ่าก็ยังคง "ประเพณี"
การดันเด็กเยาวชนในทีมอยู่เรื่อยมา ปีละหนึ่งคนหรือสองคนมันก็โอเคแล้ว
ดั่งเช่นในทีมชุดใหญ่ตอนนี้นักเตะที่เคย เป็นเด็กเยาวชนบาร์ซ่ามาก่อนก็ มี บัลเดส, ชาบี้, อิเนียสต้า, เมซซี่, โบยาน , บุสเกสต์, ปูโยล, ปิเก้ ฯ
ล้วนแล้วแต่เป็นนักเตะสำคัญของทีมทั้ง นั้น หรือจะนับรวมไปถึงโค้ชหนุ่มไฟแรงอย่าง โจเซป กวาดิโอล่า ด้วยก็ได้อยู่
หากจะหาทีมที่มี "ประเพณี" หรือแนวทางด้านนี้เฉกเช่นเดียวกับทีมอย่างบาร์ซ่าแล้ว ก็ต้องโยงไปถึงทีมจากแคว้นบาสก์ อย่าง "แอธเลติก บิลเบา"
ประเพณีของทีมนี้อาจจะมีความละม้ายคล้าย คลึงกับบาร์ซ่าอยู่เล็กน้อย ...
อย่างที่ทราบกันดีว่า บิลเบา จะเน้นใช้นโยบายนักเตะเด็กปั้นของตัวเองเท่านั้น ! การจับจ่ายซื้อขายในทีมนี้มันมีบ้างครับแต่ในรายชื่อของนักเตะแล้วแต่ละคนใน ชุดจริงล้วนแล้วแต่ละคนที่มีเชื้อสายสเปน ทุกคน !!
นี่ล่ะครับที่เป็นเอกลักษณ์ของทีมดังจาก แคว้นบาสก์ แต่ ในวงการฟุตบอลต้องยอมรับว่าสิ่งที่โหยหากันก็คือการเป็น "แชมป์เปี้ยน" ในรายของบิลเบานั้นไม่ได้ขี้เหร่จนเกินไปถ้าจะนับถ้วยในตู้โชว์ของสโมสรก็พอ สู้กับหลายๆทีมในสเปนได้
1 ใน 3 ทีม ในลาลีกา ลีค ที่ยังไม่เคยตกชั้นไปเล่นใน เซกุนด้า ร่วมกับ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า นั้นห่างเหินจากคำว่าประสบความสำเร็จมาพอสมควร
ในถ้วยโคปา เดล เรย์ ยังพอได้ลุ้นบ้าง แต่ในการแข่งขันอื่นๆยังถือว่าไม่เข้าขั้น
การที่ยึดติดหรือหนักแน่นใน "ประเพณี" มันก็เหมือนดาบสองคม บิลเบา น่ายกย่องในเรื่องประวัติศาสตร์ ประเพณี
แต่ในด้านความสำเร็จในปัจจุบัน มันยังไม่เป็นที่เชิดหน้าชูตาเทียบเท่ากับประวัติศาสตร์อันดีงามสักเท่าไหร่
แต่เหนือสิ่งอื่นใดแล้วสำหรับทีมอย่าง บิลเบา ที่ยิ่งใหญ่จนถึง ณ ปัจจุบัน ได้ส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนหลักของทีมเลยก็คือ
"แฟนบอลที่จงรักภักดี" นี่เป็นสิ่งที่ประคอง ประเพณี และ ความยิ่งใหญ่ของทีมให้คงอยู่
ถ้าเปรียบเทียบกับทีมแคว้นคาตาลัน อย่าง บาร์เซโลน่า มันก็เป็นสิ่งที่ชัดเจนว่า บาร์ซ่านั้น ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน มากกว่า บิลเบาอยู่พอสมควร
อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นหนึ่งในแรงขับ เคลื่อนของความสำเร็จของทีมเลือดหมูน้ำเงิน และเกี่ยวข้องกับคำว่า "ประเพณี" ก็คือ ....
"การเล่นฟุตบอลเกมส์รุกที่สวยงาม" เกมส์ใดที่สกอร์จบเกมส์เป็น 0-0 ก็เหมือนกับยามบ่ายที่ไม่มีแสงแดด
การ ที่แฟนบอลชาวบาร์ซ่าตีตั๋วเข้ามาชมเกมส์ลูกหนัง จุดประสงค์หลัก ก็คือ ดูการเล่นฟุตบอลเกมส์รุกที่ตื่นตาตื่นใจและสวยงาม เปรียบได้ดั่งการ สู้กระทิง ของ เอล มาทาดอร์ ในสเปน ..
ของขวัญในค่ำคืนอันแสนสนุกจากรังคัมป์ นู ของแฟนบอลคือการได้ดูทีมรักของตัวเอง เล่นฟุตบอลเอนเตอร์เทน ได้อย่างสนุกสนานเร้าใจและสวยงาม มิใช่การเล่นบอลในสไตล์น่าเบื่อรัดกุม ..
การเล่นฟุตบอลเกมส์รุกของบาร์ซ่าเริ่ม ต้นมาตั้งแต่สมัย โยฮัน ครัฟฟ์ยังเป็นนักเตะให้ทีมเลือดหมูน้ำเงิน จนถึง ณ ปัจจุบัน ยังคงสไตล์การเล่นที่เร้าใจอยู่ และ จะคงอยู่อย่างนี้ตลอดไป
การได้รับความสุขจากการดูบอลเอนเตอร์เทน มันก็ย่อมมีผลเสีย ตามมาอยู่แล้ว นั่นคือ ความสำเร็จ .. ความสำเร็จของบาร์ซ่า ไม่ได้มีมาตลอดหรือทุกปี
มันย่อมเป็นไปตามกฏของธรรมชาติขึ้นและลง แต่การเล่นบอลในสไตล์แบบนี้
หากจะหวังที่จะประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ อย่างต่อเนื่อง มันเป็นไปไม่ได้ แต่ ณ วันนี้ในปัจจุบัน บาร์ซ่าได้พิสูจน์แล้วว่าการเล่นฟุตบอลแบบที่พวกเค้าเป็นมันยังไม่ ตาย ไปซะทีเดียว !! จากการคว้าทริเปิ้ลแชมป์ ในปีนี้
ทำให้หลายคนเหลียวมอง สนใจในเกมส์รุก อันสวยสดงดงามของบาร์ซ่า ใช่แล้ว มันเป็นสิ่งที่มีมายาวนาน มันเป็นประเพณีของพวกเรา และใน ณ วันนี้ก็ได้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ !!
การประสบความสำเร็จในการเล่นฟุตบอลย่อม ไม่ต้องการถ้วยรางวัลเสมอไป การที่ได้รับรอยยิ้ม และทำให้คนดูมีความสุข เท่านี้มันก็เพียงพอแล้ว ...
การเล่นฟุตบอลที่สวยงาม และ คลาสสิค ดั่งศิลปิน มันยังไม่ "ตาย" ไปจากวงการลูกหนังโลก ...
ประเพณี ของ ชาวเลือดหมูน้ำเงิน บาร์เซโลน่า คือ ความจงรักภักดีต่อวงการลูกหนังโลก !!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น