วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

รวบรวมสถิติเก่าๆ ที่ บาร์ซ่า ปราชัยด้วยสกอร์ 2-1 ก่อนในเกมแรก แต่สามารถกลับมาเข้ารอบได้

รวบรวมสถิติเก่าๆ ที่ บาร์เซโลน่า ปราชัยด้วยสกอร์ 2-1 ก่อนในเกมแรก แต่สามารถพลิกกลับมาเข้ารอบต่อไป !!



ภายหลังจากที่ทีมอาซูลกราน่า ต้องพลาดท่าปราชัยให้แก่สโมสร อาร์เซนอล ไปด้วยสกอร์ 2-1 ในฟุตบอล UCL รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรกเมื่อคืนนี้ มาวันนี้ทางเวปไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสร บาร์เซโลน่า ได้ทำการรวบรวมสถิติเก่าๆ ที่ทีมอาซูลกราน่า ได้พลาดท่าปราชัยให้แก่คู่ต่อสู้ในฟุตบอลถ้วยยุโรบก่อนในเกมแรก ด้วยสกอร์ 2-1 แต่สุดท้ายสามารถพลิกกลับมาเข้ารอบต่อไปได้ โดย บาร์เซโลน่า ได้เคยพลาดท่าให้กับคู่แข่งขันในฟุตบอลถ้วยยุโรบด้วยสกอร์ 2-1 ในเกมแรก 5 ครั้ง และมีถึง 3 ครั้งที่ทีมอาซูลกราน่า สามารถพลิกกลับมาเข้ารอบได้สำเร็จ


ล้มทีมม้าขาว อิปสวิช ของปู่บ๊อบบี้ ร๊อบสัน !!


ในฟุตบอล คัพ วินเนอร์ คัพ (ปัจจุบันถ้วยนี้ไม่มีแล้ว) รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อฤดูกาล 1978/1979 สโมสร บาร์เซโลน่า ได้พลาดท่าปราชัยให้แก่สโมสร อิปสวิช ที่สนามเหย้าของทีมม้าขาวอย่าง ปอร์ทแมน โร๊ด ในเกมแรกwxก่อนที่สกอร์ 2-1 โดยในเวลานั้น ทีมม้าขาว มีกุนซือที่ชื่อว่า เซอร์ บ๊อบบี้ ร๊อบสัน (ในเวลานั้น ยังไม่มียศท่านเซอร์) คุมทีมอยู่ข้างสนาม

ซึ่งทางทีมอาซูลกราน่า มาได้ประตู Away Goal ที่สำคัญกลับถิ่นคัมป์ นู จาก มิดฟิดส์คนสำคัญของทีมในเวลานั้นอย่าง เอสเตบัน บีโก้ (ที่ปัจจุบันเป็นกุนซือให้กับสโมสร เอร์กูเลส) ส่วนในเกมนัดที่สองที่สนาม คัมป์ นู กุนซือของทีมอาซูลกราน่าในเวลานั้นอย่าง ลูแซง มูลเลอร์ ได้วางหมากให้กับทีมเลือดหมู-น้ำเงินได้เป็นอย่างดี จนในที่สุด บาร์เซโลน่า ก็สามารถพิชิตทีมม้าขาวจากเกาะอังกฤษไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 โดยผู้ทำประตูชัยให้ทีมเลือดหมู-น้ำเงิน ในเวลานั้นก็คือ มิกูลี่ เซนเตอร์แบ๊คคนสำคัญของทีม และเป็นเจ้าของฉายา "ทาร์ซาน" นั่นเอง

ทำให้ในที่สุดแล้วสโมสร บาร์เซโลน่า สามารถผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ ด้วยผลสกอร์รวม 2-2 แต่ทางทีมอาซูลกราน่าได้เข้ารอบไปด้วยกฏประตูทีมเยือน และในปีนั้น ยอดทีมแห่งแคว้นคาตาลัน ก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคจนก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์ฟุตบอล คัพ วินเนอร์ คัพ ได้เป็นผลสำเร็จ



ริเฟ่ และ ซาบัลล่า ทำประตูให้ทีมอาซูลกราน่า ผงาดเหนือยอดทีมแห่งเบลเยี่ยม !!


ในศึกฟุตบอล แฟร์ คัพ (ชื่อเก่าของถ้วย ยูฟ่า คัพ ในปัจจุบัน) รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในปี 1966 สโมสร บาร์เซโลน่า ต้องโคจรมาพบกับยอดทีมชื่อดังแห่งเบลเยี่ยมอย่าง รอยัล อัลเวิร์ป โดยในเกมนัดแรก รอยัล อัลเวิร์ป ได้เป็นเจ้าบ้านก่อน ซึ่งทางทีมอาซูลกราน่า ก็ต้องตกเป็นฝ่ายปราชัยไปก่อนด้วยสกอร์ 2-1 เ่ช่นเคม ซึ่งทาง โจอาควิม ริเฟ่ มิดฟิดส์ตัวกลั่นของสโมสร บาร์เซโลน่า ในเวลานั้น ได้เป็นผู้ทำประตู Away Goal ให้แก่ทีมเลือดหมู-น้ำเงิน เอากลับมานอนกอดที่ กาตาลัน ได้เป็นผลสำเร็จ

จากนั้นในเกมนัดที่สอง ที่สนาม คัมป์ นู ในนาทีที่ 28 ของเกม สถานการณ์ของทีมอาซูลกราน่า ก็ต้องลำบากมากขึ้นไปอีก เนื่องจาก เฆซุส มาเรีย เปเรด้า มิดฟิดส์คนสำคัญของทีมในเวลานั้น ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก จนไม่สามารถที่จะเล่นต่อไปได้ และทางทีมอาซูลกราน่า ก็ไม่มีผู้เล่นที่จะเปลี่ยนลงมาเล่นแทน จึงต้องทำให้ บาร์เซโลน่า ต้องเล่นในเวลาที่เหลือด้วยผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนเท่านั้น แต่ทว่า ยอดทีมดังแห่งแคว้นคาตาลัน ก็ได้รวมใจกัน จนสามารถพลิกเอาชนะ รอยัล อัลเวิร์ป ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0

โดย โจอาควิม ริเฟ่ และ เปโดร ซาบัลล่า (กองหน้า) ได้ช่วยกันทำคนละหนึ่งประตู ให้ทีมอาซูลกราน่าเข้ารอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 3-2

โชคช่วย บาร์เซโลน่า โยนเหรียญเข้ารอบ ที่ฮันโนเวอร์ !!


หลังจากที่ บาร์เซโลน่า สามารถพลิกกลับมาเอาชนะ รอยัล อัลเวิร์ป ได้ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในศึกฟุตบอล แฟร์ คัพ ปี 1966 จากนั้นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย บาร์เซโลน่า ก็ต้องโคจรมาพบกับสโมสรชื่อดังจากเยอรมันอย่างทีม ฮันโนเวอร์ ซึ่งในเวลานั้น ฟุตบอลยุโรบ ยังไม่มีกฏกติกา Away Goal มาใช้ โดยการแข่งขัน ก็จะใช้กฏเหย้า-เยือน เหมือนเช่นในปัจจุบัน แต่ถ้าครบทั้งสองนัดแล้ว ยังไม่มีผู้ชนะ ก็ต้องมาเล่นกันต่อในนัดที่สาม และหากใน 90 นาทีในเกมนัดที่สามก็ยังไม่มีผู้ชนะอีก ก็จะทำการต่อเวลาพิเศษออกไป และหากต่อเวลาไปแล้ว ก็ยังไม่สามารถได้ผู้ชนะ ก็จะมาทำการโยนเหรียญเสี่ยงทาย เพื่อที่จะเลือกผู้ชนะที่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

และดูเหมือนว่า ชะตาฟ้าลิขิตเป็นใจให้แก่ทีมอาซูลกราน่า เนื่องจากในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายในเวลานั้น บาร์เซโลน่า ได้พลาดท่าปราชัยให้แก่สโมสร ฮันโนเวอร์ ไปก่อนในเกมแรกด้วยสกอร์ 2-1 จากนั้น บาร์เซโลน่า ก็สามารถกลับมาเอาชนะ ทีมดังแห่งเมืองเบียร์ ได้ที่ คาตาลัน 1-0 ทำให้รวมผลสองนัดสกอร์มาเท่ากันที่ 2-2 และต้องไปแข่งกันอีกในนัดที่ 3 ที่สนามเหย้าของ ฮันโนเวอร์ ซึ่งผลใน 90 นาทีแรก จบลงที่เสมอกันด้วยสกอร์ 1-1 ทำให้ต้องต่อเวลาออกไป แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะกันได้ จนต้องทำให้มีการโยนเหรียญเสี่ยงทาย เลือกผู้ผ่านเข้ารอบต่อไป

โดยที่ ฟ้าได้เป็นใจให้กับทีมอาซูลกราน่า ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไป และในปีนั้น บาร์เซโลน่า ก็สามารถคว้าแชมป์ แฟร์คัพ มาครองได้



ความทรงจำที่แสนเจ็บปวดกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด !!


ความทรงจำอันขมขื่นในครั้งนี้ ได้เกิดขึ้นเมื่อในปี 1975 ในศึกฟุตบอล ยูโรเปี้ยน คัพ (ชื่อเดิมของ UCL) โดย บาร์เซโลน่า ต้องโคจรมาพบกับสโมสร ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมชื่อดังจากเกาะอังกฤษ ซึ่งผลการแข่งขันในเกมนัดแรกที่สนาม เอลแลนด์ โร๊ด ก็จบลงด้วยการปราชัยของทีมเลือดหมู-น้ำเงิน ที่สกอร์ 2-1 โดย ฆวน มานูเอล อาเซนซี่ มิดฟิดส์ตัวสำคัญของทีมเลือดหมู-น้ำเงินในขณะนั้น ได้ทำประตู Away Goal ด้วยลูกฟรีคิกสุดสวย ให้กับ บาร์เซโลน่า เอากลับไป คาตาลัน ก่อนในเกมแรก

จากนั้นในเกมนัดที่สองที่สนาม คัมป์ นู ทีมอาซูลกราน่าก็ต้องมาพลาดท่าเสียประตู Away Goal ให้แก่ ลีดส์ ยูไนเต็ด อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 7 จาก แพททริก โลริเมอร์ ปีกขวาของทีมยูงทองในขณะนั้น และเมื่อทีมยูงทองได้ประตูที่สำคัญไปแล้ว พวกเค้าก็ได้ลงมาตั้งรับ โดยที่ไม่สนใจเกมรุกอีกเลย และกว่าที่ บาร์เซโลน่า จะมาตามตีเสมอได้ ก็ปาเข้าไปในช่วงนาทีที่ 69 ของเกมเข้าไปแล้ว โดย มานูเอล คาร์เรส ปีกตัวกลั่นของทีมเลือดหมู-น้ำเงินในเวลานั้น ได้เป็นผู้ทำประตูตีเสมอให้กับทีมอาซูลกราน่า

จากนั้น ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็เล่นแบบไม่สนใจเกมรุกอีกเลย โดยพวกเค้าได้ปล่อยให้ พลพรรคอาซูลกราน่า บุกแหลกเข้าใส่ แต่ทว่า ยอดทีมแห่งแคว้นคาตาลัน ก็ไม่สามารถที่จะเจาะประตูผู้มาเยือนเพิ่มได้ ทำให้หมดเวลา บาร์เซโลน่า ทำได้เพียงแค่เสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในถิ่น คัมป์ นู ไปด้วยสกอร์ 1-1 ซึ่งรวมผลสองนัด ไม่เพียงพอที่จะทำให้ทีมอาซูลกราน่า ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แต่อย่างไรก็ดี ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็ทำได้เพียงแค่รองแชมป์ในรายการนี้เท่านั้น เนื่องจากพวกเค้าได้แพ้ให้กับสโมสร บาเยินซ์ มิวนิค ในรอบชิงชนะเลิศ




Credit : fcbarcelona.cat/fcbarcelona.in.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น