วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

มาร์เซโล่เผยอยากได้เปโดรมาเล่นให้ชุดขาว




มาร์เซโล่ แบ็ก เรอัล มาดริด เผยอยากได้ เปโดร หัวหอกทีมชาติสเปน ร่วมทีม หากเลือกนักเตะคนไหนก็ได้จาก บาร์เซโลน่า มาเสริมทัพ ชี้เป็นนักเตะที่ทุ่มเทเต็มร้อยเพื่อทีม แต่กลับไม่ได้รับการยกย่องมากเท่าที่ควร


มาร์เซโล่ กองหลัง "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ออกมาเผยเมื่อวันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า หากเขาสามารถเลือกผู้เล่นคนใดก็ได้จาก "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ทีมคู่ปรับตลอดกาล มาร่วมทีม เขาจะเลือก เปโดร กองหน้าทีมชาติสเปน เนื่องจากเป็นนักเตะที่ทุ่มเทเต็มที่เพื่อช่วยเหลือทีม


"หากผมมีโอกาสได้เลือกนักเตะสักคนจาก บาร์เซโลน่า มาร่วมทีม เรอัล มาดริด ผมจะเลือก เปโดร เขาได้รับการพิจารณาในฐานะกองหน้า แต่เขาทำงานอย่างหนักในเกมรับเพื่อช่วยเหลือทีม มันไม่มีการพูดถึง เปโดร มากนัก แต่ความจริงแล้วเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของทีมแห่งแคว้นกาตาลัน" มาร์เซโล่ กล่าว

สำหรับ เปโดร ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ ร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ ดาบิด บีย่า ในแนวรุก โดยทำไปแล้ว 19 ประตูจากทุกรายการ และบ่อยครั้งที่ลูกยิงของเขาเป็นประตูสำคัญของทีม


siamsport

ลินิเกอร์ชี้บาร์ซ่าต้องสอยชปล.2-3สมัยสู่ยอดทีม



แกรี่ ลินิเกอร์ อดีตกองหน้า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และทีมชาติอังกฤษ ชี้หาก บาร์เซโลน่า อยากได้ชื่อว่าเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ก็ต้องพยายามคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้มากกว่านี้อีกสัก 2-3 ครั้ง ไม่งั้นคงไม่ได้อยู่ในทำเนียบยอดทีมแน่นอน


ลินิเกอร์ ยอมรับว่า สเปอร์ส และ "ไอ้ปืนใหญ่" ทำผลงานได้สุดยอด ในเกมถ้วยใบโตยุโรปจริงๆ "นี่เป็นผลการแข่งขันที่น่าเหลือเชื่อพอสมควร และเป็นผลการแข่งขันที่สุดยอดสำหรับ 2 ทีมแห่งลอนดอนเหนือ ผมอยากดู บาร์เซโลน่า และผมคิดว่า พวกเขาคงจะเป็นสโมสรที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมา"


"นี่เป็นผลการแข่งขันที่สำคัญมากสำหรับ อาร์เซน่อล แต่มันก็แค่ช่วงพักครึ่งเท่านั้น และผมยังคิดว่า อาร์เซน่อล ต้องพยายามทุ่มเทเพื่อไม่ให้ บาร์เซโลน่า ได้เล่นง่ายๆ ไม่ใช่แค่เล่นตามสไตล์ที่พวกเขาทำ และต้องทำงานหนักด้วย"


"บาร์เซโลน่า มีนักเตะที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์มากมาย พวกเขามีการพัฒนาอยู่เสมอ และต้องคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก 2-3 ครั้ง ก่อนที่เราจะยกย่องพวกเขาในฐานะทีมที่ดีที่สุดตลอดกาล แต่ผมคิดว่า มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะทำได้สำเร็จ" ลินิเกอร์ ร่ายยาว


http://www.siamsport.co.th/

รวบรวมสถิติเก่าๆ ที่ บาร์ซ่า ปราชัยด้วยสกอร์ 2-1 ก่อนในเกมแรก แต่สามารถกลับมาเข้ารอบได้

รวบรวมสถิติเก่าๆ ที่ บาร์เซโลน่า ปราชัยด้วยสกอร์ 2-1 ก่อนในเกมแรก แต่สามารถพลิกกลับมาเข้ารอบต่อไป !!



ภายหลังจากที่ทีมอาซูลกราน่า ต้องพลาดท่าปราชัยให้แก่สโมสร อาร์เซนอล ไปด้วยสกอร์ 2-1 ในฟุตบอล UCL รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรกเมื่อคืนนี้ มาวันนี้ทางเวปไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสร บาร์เซโลน่า ได้ทำการรวบรวมสถิติเก่าๆ ที่ทีมอาซูลกราน่า ได้พลาดท่าปราชัยให้แก่คู่ต่อสู้ในฟุตบอลถ้วยยุโรบก่อนในเกมแรก ด้วยสกอร์ 2-1 แต่สุดท้ายสามารถพลิกกลับมาเข้ารอบต่อไปได้ โดย บาร์เซโลน่า ได้เคยพลาดท่าให้กับคู่แข่งขันในฟุตบอลถ้วยยุโรบด้วยสกอร์ 2-1 ในเกมแรก 5 ครั้ง และมีถึง 3 ครั้งที่ทีมอาซูลกราน่า สามารถพลิกกลับมาเข้ารอบได้สำเร็จ


ล้มทีมม้าขาว อิปสวิช ของปู่บ๊อบบี้ ร๊อบสัน !!


ในฟุตบอล คัพ วินเนอร์ คัพ (ปัจจุบันถ้วยนี้ไม่มีแล้ว) รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อฤดูกาล 1978/1979 สโมสร บาร์เซโลน่า ได้พลาดท่าปราชัยให้แก่สโมสร อิปสวิช ที่สนามเหย้าของทีมม้าขาวอย่าง ปอร์ทแมน โร๊ด ในเกมแรกwxก่อนที่สกอร์ 2-1 โดยในเวลานั้น ทีมม้าขาว มีกุนซือที่ชื่อว่า เซอร์ บ๊อบบี้ ร๊อบสัน (ในเวลานั้น ยังไม่มียศท่านเซอร์) คุมทีมอยู่ข้างสนาม

ซึ่งทางทีมอาซูลกราน่า มาได้ประตู Away Goal ที่สำคัญกลับถิ่นคัมป์ นู จาก มิดฟิดส์คนสำคัญของทีมในเวลานั้นอย่าง เอสเตบัน บีโก้ (ที่ปัจจุบันเป็นกุนซือให้กับสโมสร เอร์กูเลส) ส่วนในเกมนัดที่สองที่สนาม คัมป์ นู กุนซือของทีมอาซูลกราน่าในเวลานั้นอย่าง ลูแซง มูลเลอร์ ได้วางหมากให้กับทีมเลือดหมู-น้ำเงินได้เป็นอย่างดี จนในที่สุด บาร์เซโลน่า ก็สามารถพิชิตทีมม้าขาวจากเกาะอังกฤษไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 โดยผู้ทำประตูชัยให้ทีมเลือดหมู-น้ำเงิน ในเวลานั้นก็คือ มิกูลี่ เซนเตอร์แบ๊คคนสำคัญของทีม และเป็นเจ้าของฉายา "ทาร์ซาน" นั่นเอง

ทำให้ในที่สุดแล้วสโมสร บาร์เซโลน่า สามารถผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ ด้วยผลสกอร์รวม 2-2 แต่ทางทีมอาซูลกราน่าได้เข้ารอบไปด้วยกฏประตูทีมเยือน และในปีนั้น ยอดทีมแห่งแคว้นคาตาลัน ก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคจนก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์ฟุตบอล คัพ วินเนอร์ คัพ ได้เป็นผลสำเร็จ



ริเฟ่ และ ซาบัลล่า ทำประตูให้ทีมอาซูลกราน่า ผงาดเหนือยอดทีมแห่งเบลเยี่ยม !!


ในศึกฟุตบอล แฟร์ คัพ (ชื่อเก่าของถ้วย ยูฟ่า คัพ ในปัจจุบัน) รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในปี 1966 สโมสร บาร์เซโลน่า ต้องโคจรมาพบกับยอดทีมชื่อดังแห่งเบลเยี่ยมอย่าง รอยัล อัลเวิร์ป โดยในเกมนัดแรก รอยัล อัลเวิร์ป ได้เป็นเจ้าบ้านก่อน ซึ่งทางทีมอาซูลกราน่า ก็ต้องตกเป็นฝ่ายปราชัยไปก่อนด้วยสกอร์ 2-1 เ่ช่นเคม ซึ่งทาง โจอาควิม ริเฟ่ มิดฟิดส์ตัวกลั่นของสโมสร บาร์เซโลน่า ในเวลานั้น ได้เป็นผู้ทำประตู Away Goal ให้แก่ทีมเลือดหมู-น้ำเงิน เอากลับมานอนกอดที่ กาตาลัน ได้เป็นผลสำเร็จ

จากนั้นในเกมนัดที่สอง ที่สนาม คัมป์ นู ในนาทีที่ 28 ของเกม สถานการณ์ของทีมอาซูลกราน่า ก็ต้องลำบากมากขึ้นไปอีก เนื่องจาก เฆซุส มาเรีย เปเรด้า มิดฟิดส์คนสำคัญของทีมในเวลานั้น ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก จนไม่สามารถที่จะเล่นต่อไปได้ และทางทีมอาซูลกราน่า ก็ไม่มีผู้เล่นที่จะเปลี่ยนลงมาเล่นแทน จึงต้องทำให้ บาร์เซโลน่า ต้องเล่นในเวลาที่เหลือด้วยผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนเท่านั้น แต่ทว่า ยอดทีมดังแห่งแคว้นคาตาลัน ก็ได้รวมใจกัน จนสามารถพลิกเอาชนะ รอยัล อัลเวิร์ป ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0

โดย โจอาควิม ริเฟ่ และ เปโดร ซาบัลล่า (กองหน้า) ได้ช่วยกันทำคนละหนึ่งประตู ให้ทีมอาซูลกราน่าเข้ารอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 3-2

โชคช่วย บาร์เซโลน่า โยนเหรียญเข้ารอบ ที่ฮันโนเวอร์ !!


หลังจากที่ บาร์เซโลน่า สามารถพลิกกลับมาเอาชนะ รอยัล อัลเวิร์ป ได้ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในศึกฟุตบอล แฟร์ คัพ ปี 1966 จากนั้นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย บาร์เซโลน่า ก็ต้องโคจรมาพบกับสโมสรชื่อดังจากเยอรมันอย่างทีม ฮันโนเวอร์ ซึ่งในเวลานั้น ฟุตบอลยุโรบ ยังไม่มีกฏกติกา Away Goal มาใช้ โดยการแข่งขัน ก็จะใช้กฏเหย้า-เยือน เหมือนเช่นในปัจจุบัน แต่ถ้าครบทั้งสองนัดแล้ว ยังไม่มีผู้ชนะ ก็ต้องมาเล่นกันต่อในนัดที่สาม และหากใน 90 นาทีในเกมนัดที่สามก็ยังไม่มีผู้ชนะอีก ก็จะทำการต่อเวลาพิเศษออกไป และหากต่อเวลาไปแล้ว ก็ยังไม่สามารถได้ผู้ชนะ ก็จะมาทำการโยนเหรียญเสี่ยงทาย เพื่อที่จะเลือกผู้ชนะที่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

และดูเหมือนว่า ชะตาฟ้าลิขิตเป็นใจให้แก่ทีมอาซูลกราน่า เนื่องจากในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายในเวลานั้น บาร์เซโลน่า ได้พลาดท่าปราชัยให้แก่สโมสร ฮันโนเวอร์ ไปก่อนในเกมแรกด้วยสกอร์ 2-1 จากนั้น บาร์เซโลน่า ก็สามารถกลับมาเอาชนะ ทีมดังแห่งเมืองเบียร์ ได้ที่ คาตาลัน 1-0 ทำให้รวมผลสองนัดสกอร์มาเท่ากันที่ 2-2 และต้องไปแข่งกันอีกในนัดที่ 3 ที่สนามเหย้าของ ฮันโนเวอร์ ซึ่งผลใน 90 นาทีแรก จบลงที่เสมอกันด้วยสกอร์ 1-1 ทำให้ต้องต่อเวลาออกไป แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะกันได้ จนต้องทำให้มีการโยนเหรียญเสี่ยงทาย เลือกผู้ผ่านเข้ารอบต่อไป

โดยที่ ฟ้าได้เป็นใจให้กับทีมอาซูลกราน่า ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไป และในปีนั้น บาร์เซโลน่า ก็สามารถคว้าแชมป์ แฟร์คัพ มาครองได้



ความทรงจำที่แสนเจ็บปวดกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด !!


ความทรงจำอันขมขื่นในครั้งนี้ ได้เกิดขึ้นเมื่อในปี 1975 ในศึกฟุตบอล ยูโรเปี้ยน คัพ (ชื่อเดิมของ UCL) โดย บาร์เซโลน่า ต้องโคจรมาพบกับสโมสร ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมชื่อดังจากเกาะอังกฤษ ซึ่งผลการแข่งขันในเกมนัดแรกที่สนาม เอลแลนด์ โร๊ด ก็จบลงด้วยการปราชัยของทีมเลือดหมู-น้ำเงิน ที่สกอร์ 2-1 โดย ฆวน มานูเอล อาเซนซี่ มิดฟิดส์ตัวสำคัญของทีมเลือดหมู-น้ำเงินในขณะนั้น ได้ทำประตู Away Goal ด้วยลูกฟรีคิกสุดสวย ให้กับ บาร์เซโลน่า เอากลับไป คาตาลัน ก่อนในเกมแรก

จากนั้นในเกมนัดที่สองที่สนาม คัมป์ นู ทีมอาซูลกราน่าก็ต้องมาพลาดท่าเสียประตู Away Goal ให้แก่ ลีดส์ ยูไนเต็ด อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 7 จาก แพททริก โลริเมอร์ ปีกขวาของทีมยูงทองในขณะนั้น และเมื่อทีมยูงทองได้ประตูที่สำคัญไปแล้ว พวกเค้าก็ได้ลงมาตั้งรับ โดยที่ไม่สนใจเกมรุกอีกเลย และกว่าที่ บาร์เซโลน่า จะมาตามตีเสมอได้ ก็ปาเข้าไปในช่วงนาทีที่ 69 ของเกมเข้าไปแล้ว โดย มานูเอล คาร์เรส ปีกตัวกลั่นของทีมเลือดหมู-น้ำเงินในเวลานั้น ได้เป็นผู้ทำประตูตีเสมอให้กับทีมอาซูลกราน่า

จากนั้น ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็เล่นแบบไม่สนใจเกมรุกอีกเลย โดยพวกเค้าได้ปล่อยให้ พลพรรคอาซูลกราน่า บุกแหลกเข้าใส่ แต่ทว่า ยอดทีมแห่งแคว้นคาตาลัน ก็ไม่สามารถที่จะเจาะประตูผู้มาเยือนเพิ่มได้ ทำให้หมดเวลา บาร์เซโลน่า ทำได้เพียงแค่เสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในถิ่น คัมป์ นู ไปด้วยสกอร์ 1-1 ซึ่งรวมผลสองนัด ไม่เพียงพอที่จะทำให้ทีมอาซูลกราน่า ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แต่อย่างไรก็ดี ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็ทำได้เพียงแค่รองแชมป์ในรายการนี้เท่านั้น เนื่องจากพวกเค้าได้แพ้ให้กับสโมสร บาเยินซ์ มิวนิค ในรอบชิงชนะเลิศ




Credit : fcbarcelona.cat/fcbarcelona.in.th

อาร์วีพีคุยขรมใช้สไตล์บาร์ซ่าบดชนะเจ้าบุญทุ่ม



โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกซ้ายพิฆาต ของ อาร์เซน่อล ชี้เล่นกับ บาร์เซโลน่า ถ้าตั้งรับลึก คงลงเอยด้วยการแพ้ในที่สุด ดังนั้นวิธีชนะ "เจ้าบุญทุ่ม" ก็คือใช้สไตล์การเล่นเกมบุก และอย่างมีทีมเวิร์กของทีมแกร่งกาตาลัน มาเล่นงานตัวเอง จนชนะไป 2-1 เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก


ฟาน เพอร์ซี่ ที่ยิงตีเสมอนาทีที่ 78 หลังโดน ดาบิด บีย่า ซัดไปต้นครึ่งแรก ก่อนเป็น อังเดร อาร์ชาวิน ที่ยิงประตูชัยในนาทีที่ 83 บอกว่า วิธีเดียวที่จะชนะ บาร์ซ่า คือ ต้องเล่นสไตล์เดียวกับ "เจ้าบุญทุ่ม" เพราะการตั้งหน้าอุดมีแต่ตายกับตาย "ก็แค่เล่นไป ตามเกมของเรา เพราะตามความเห็นของ
ผม และของเรา ถ้าคุณถอยลงมาตั้งรับลึกเกินไป พวกเขาก็เก่งพอที่จะชนะคุณอยู่ดี ดังนั้นตามความเห็นของผม เราต้องชนะพวกเขาด้วยสไตล์ของพวกเขา เราทุ่มเทกันทุกอย่าง และชนะในที่สุดด้วยโชคเล็กๆ น้อยๆ แต่ยังไงนี่ก็คือชัยชนะที่พิเศษ"


หัวหอกซ้ายพิฆาต ไม่ลืมยกย่องเหล่าสาวก "เดอะ กันเนอร์ส" ที่ช่วยกันเชียร์ทีมตลอดเวลา "มัน ไม่ใช่แค่เราเท่านั้น แต่แฟนบอลด้วย แฟนบอลของเราน่าเหลือเชื่อมาก ผมอยากจะขอบคุณพวกเขามากๆ เพราะพวกเขาเลยทำให้เรามีความรู้สึกเหมือนเล่นกัน 12 คน"




เวนเกอร์ชูแข้งปืนใจสิงห์ลั่นบุกโค่นบาร์ซ่าที่คัมป์นู



อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซน่อล กร้าวทีมต้องเล่นอย่างเชื่อมั่นว่าตัวเองมีดีพอ หากอยากโค่น บาร์เซโลน่า เข้ารอบ 8 ทีม แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังนัดแรกโชว์สปิริตสู้ไม่ถอย ไล่ยิง 2 ลูกช่วง 12 นาทีสุดท้าย แซงเอาชนะ 2-1 คว้าชัยนัดแรกใน เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม วันพุธที่ผ่านมา


อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล กระตุ้นขุนพล "เดอะ กันเนอร์ส" ว่าถึงเวลาเชื่อมั่นในฝีเท้าตัวเอง และบุกไปจบงาน แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ คัมป์ นู ให้อย่างเด็ดขาด หลังจากเปิดสนามเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ทำศึกเกมแรก ไล่ยิงสองลูกรวด เฉือนเอาชนะ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ยอดทีมจากแดนกระทิงดุ ไปได้ 2-1 ด้วยการยิงสองประตูในช่วง 12 นาทีสุดท้าย กุมความได้เปรียบก่อนทำไปศึกนัดสอง ในเกมแรก ที่ เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม พุธที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา


ดาบิด บีย่า ยิงให้ทีมเยือนจากกาตาลัน นำไปก่อนนาทีที่ 26 จากนั้น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ตีเสมอนาทีที่ 78 ตามด้วย อังเดร อาร์ชาวิน นาทีที่ 83 ช่วยให้ อาร์เซน่อล ชนะ บาร์เซโลน่า ครั้งแรก แต่งานยังไม่จบ เพราะยังมีเกมนัดสองที่ คัมป์ นู วันที่ 8 มีนาคม โดย เวนเกอร์ กล่าวว่า "นี่ เป็นหนึ่งในคืนที่น่าตื่นเต้นที่สุด เพราะมันเป็นเกมกับทีมที่พิเศษด้วย เกมนี้มีสัญญามากมาย และเราเติมเต็มสัญญาเหล่านั้น นี่คือเกมพิเศษระหว่างสองทีมที่พิเศษ"


"ผมภูมิใจกับจิตใจเข้มแข็งที่เราแสดงออกมา ให้เห็น เพราะการเจอกับ บาร์เซโลน่า คุณอาจโดนฉีกได้เสมอ เราไม่เคยยอมแพ้ และเราชนะได้ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง เราลงมาประกบแน่นขึ้นในครึ่งหลัง พยายามกดดันเร็ว และเล่นสูงขึ้น สภาพร่างกายของพวกเขาตกลง แต่เราไม่ใช่ และนั่นคือความแตกต่าง เรายิง 2 ประตูสุดพิเศษ ลูกหนึ่งจากทักษะสุดยอดของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และอีกลูกจากทีมเวิร์ก"


"ผมไมรู้ว่าเรามีโอกาสเข้ารอบต่อไปมากน้อย ขนาดไหน ผมเชื่ออยู่สิ่งหนึ่ง ทีมจะทุ่มเทสุดตัวเพื่อทำสำเร็จ เราจะไปเยือนพวกเขาด้วยความเชื่อมั่น ทีมเรามีกำลังใจดีเยี่ยมจากการรู้ว่าเราเอาชนะ บาร์เซโลน่า ได้ คุณสามารถมองเห็นความแตกต่างทางด้านจิตใจได้เลย ทีมเราตอนนี้เติบโตขึ้นมาก"

เป๊ปมั่นใจขุนพล-กร้าวบุกแหลกเอาคืนปืนใหญ่



เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โค้ชบาร์เซโลน่า ชม อาร์เซน่อล เล่นฟุตบอลมีสไตล์ และเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่ง หลังแพ้ 1-2 เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก แต่ยืนยันว่าพอใจฟอร์ม และมั่นใจความสามารถของทีมตัวเองว่า เกมนัดที่สองใน คัมป์ นู จะเปิดเกมบุกเข้าใส่ ยิงประตูสำคัญให้ได้ และผ่านเข้ารอบต่อไปในที่สุด


เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โค้ชหนุ่มไฟแรงของ บาร์เซโลน่า จ่าฝูงลีกสแปนิช ประกาศ เกมเปิด คัมป์ นู รอเอาคืน อาร์เซน่อล ยอดทีมของอังกฤษ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัด 2 วันที่ 8 มีนาคม จะสั่งเด็กๆ ลงไปบุกแหลก เพื่อพลิกสถานการณ์ ลุ้นผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายให้จงได้ หลังเกมแรกแม้ได้ ดาบิด บีย่า ยิงให้ออกนำไปก่อน แต่โดนเจ้าบ้าน "ปืนใหญ่" ยิงคืน 2 ลูกรวดใน 12 นาทีสุดท้าย จาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ อังเดร อาร์ชาวิน พลิกแพ้ 1-2 ในท้ายที่สุด


แม้จะแพ้ แต่การยิงประตูทีมเยือนได้ ทำให้พวกเขาชนะในบ้าน 1-0 ก็ลอยลำแล้ว โดย เป๊ป กล่าวว่า "ผม ว่าเราโอเคนะ เราแพ้เกมแรก เราจึงต้องชนะนัดสอง เราครองเกมได้เป็นส่วนใหญ่ แต่เราก็รู้ว่า พวกเขาสามารถเล่นดีในแต่ละตำแหน่ง พวกเขาเป็นทีมที่ดี และเป็นทีมที่เล่นเกมโต้กลับได้เร็วมากๆ หากเราวิเคราะห์เกมๆ นี้ ผลการแข่งขันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร จะว่าไปผมพอใจกับฟอร์มการเล่นของเราด้วยซ้ำ แต่เราต้องยิงให้ได้ในเกมนัดสอง พวกเขาจะมาบุก และเราก็จะบุกเหมือนกัน"


"นี่คือเกมวิเศษที่ทั้งสองทีมต่างก็มีโอกาส ทำประตู อาร์เซน่อล เป็นทีมที่ดีอยู่แล้ว พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และสู้ด้วยยาก เราครองเกมได้ และน่าเสียดายที่แพ้ แต่ฟุตบอลก็แบบนี้แหละ นี่คือเกมฟุตบอลยุโรป และเราก็รู้ดีว่าคู่แข่งระดับนี้มีศักยภาพขนาดไหน ผมชื่นชมสไตล์การเล่นของ อาร์เซน่อล เราสร้างโอกาสได้มากกว่าเกมนัดแรกของปีที่แล้ว แต่พวกเขาแกร่งมากเวลาพวกเขาบีบพื้นที่ เพรสซิ่ง พวกมีความสามารถในการหาช่องว่าง"


"พวกเขาสร้างแบบอย่างแบบนี้ให้เห็นมาหลายปี ผมว่าเราก็สู้ได้ดี ดีกว่าเกมนัดเยือนก่อนนี้ ทั้งกับ สตุ๊ตการ์ท หรือ ลียง เป็นต้น ตอนนี้เราค้องคิดถึคงการพลิกสกอร์กลับมาในเกมนัดที่สอง ที่เราจะได้แฟนบอลช่วยเชียร์ ผมเชื่อมั่นในตัวลูกทีมผมมาก มารอดูกันว่าเราจะจัดการเกมนี้อย่างไร การยิงประตูทีมเยือนได้มีความสำคัญเสมอ และคืนนี้เราทำได้ เกมนัดสองเราจะไม่มี ปิเก้ ที่โดนแบน ก็ได้แต่หวังว่า ปูโยล จะหายเจ็บกลับมา"



เชสยกบาร์ซ่ายอดทีมเบอร์1โลกยุคนี้




เชส ฟาเบรกาส หัวหน้าทีม อาร์เซน่อล ซูฮก บาร์เซโลน่า เก่งไม่มีใครเกินจริงๆ ในยุคนี้ แถมยังเป็นสโมสรฟุตบอลที่เป็นแบบอย่างที่ดีของการอดทนรอคอยความสำเร็จอีก ด้วย


เชส ฟาเบรกาส กองกลางกัปตันทีม อาร์เซน่อล สโมสรชั้นนำแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า ในวงการลูกหนังโลกชั่วโมงนี้ ไม่มีสโมสรใดเก่งกว่า บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน อีกแล้ว


ดาวเตะทีมชาติสเปนวัย 23 ปี ซึ่งเคยเป็นเด็กปั้นของ "เจ้าบุญทุ่ม" ก่อนย้ายมาร่วมทัพ อาร์เซน่อล เมื่อปี 2003 กล่าวว่า "บาร์ เซโลน่า เก่งที่สุดในโลกแล้วในเวลานี้ แต่ผมก็คิดว่า พวกเขายังเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องความอดทนอีกด้วย สมัยผมอยู่ที่นั่นตอนเด็กๆ ซึ่งก็ถือว่าผ่านมาได้ไม่นานสักเท่าไหร่ พวกเขาไม่ได้แชมป์รายการใดๆ เลยมา 5 ปีเต็ม บรรดาเพื่อนร่วมทีมของผมตอนนั้นอย่าง ชาบี (เอร์นานเดซ) กับ (การ์เลส) ปูโยล มือเปล่ามาตลอดเลยจนกระทั่งอายุ 26 ปี"


"พวกเขาคอยย้ำเตือนผมให้รู้จักอดทนเสมอ พวกเขาบอกผมว่า "นายเพิ่งอายุเพียง 23 ปีเท่านั้น แต่กลับได้ทั้งแชมป์เวิลด์ คัพ, เอฟเอ คัพ และ ยูโร มาแล้ว แถมยังเคยได้เข้าชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกด้วย ซึ่งมันเยอะมากเลยนะ ขณะที่พวกเราตอนอายุ 26 ปี ยังไม่ได้แชมป์อะไรเลย เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า รอบชิงฯ เป็นยังไง" นั่นคือสิ่งที่พวกเขาพูดกับผม และมันก็ตลกดีอยู่เหมือนกัน เพราะตอนนี้พวกเขาได้แชมป์ไปหมดแล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่า ฟุตบอลพลิกผันไปได้อย่างรวดเร็วมากแค่ไหน ดังนั้นความอดทนจึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับทุกอย่าง" หัวหน้าทีม "เดอะ กันเนอร์ส" ระบุ